8 มิ.ย. 2559

Reward : Risk

***การบริหารจัดการเงิน*** เป็นความรู้ที่สำคัญที่สุด! ทำให้การเทรดของผมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง 
เพราะการบริหารจัดการเงินให้เหมาะสม เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากในการประสบความสำเร็จ
จากการเทรดตลาดเงิน ตลาดทุน รวมถึงตลาด Forex ด้วย 

หากเพื่อนๆ ไม่เข้าใจความหมายของการบริหารจัดการเงิน และการประยุกต์ใช้เทคนิคนี้ เพื่อนๆ 
มีโอกาสน้อยมาก ที่จะได้รับผลกำไรอย่างต่อเนื่องจากการเทรด


Reward:Risk Ratio เป็นสิ่งสำคัญที่สุด!  ในการบริหารจัดการเงินของคุณในตลาด 
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์จำนวนมากไม่เข้าใจ  วิธีการใช้ประโยชน์จาก R:R ratio เทรดเดอร์ในตลาด
ทุกคน ต้องการที่จะเพิ่มผลตอบแทนของพวกเขา  และลดความเสี่ยงของพวกเขา นี่คือพื้นฐานของการ
เป็นเทรดเดอร์ ที่ทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง 

เทรดเดอร์หลายคน ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ จาก R:R Ratio นี้ เพราะพวกเขาไม่มีความอดทน
ที่จะใช้หลักการ R:R Ratio อย่างต่อเนื่อง ยาวนานพอในการเทรด เพื่อให้ตระหนักถึงสิ่งที่ R:R Ratio
สามารถทำให้เราได้ 

R:R Ratio ไม่ได้หมายความเพียงแค่ การคำนวณความเสี่ยง  และผลตอบแทนในการเทรดเท่านั้้น 
แต่ยังหมายถึง...ความเข้าใจหลังจากการพ่ายแพ้ หลาย ๆ ครั้ง ติด ๆ กัน 

เพื่อน ๆ ควรจะสามารถสร้างกำไรมากขึ้แม้ว่าจะพ่ายแพ้หลาย ๆ ครั้งติด ๆ กัน เมื่อเพื่อน ๆ 
ใช้หลักการ R:R Ratio ที่ 2:1 หรือสูงกว่า !!! ร่วมกับกลยุทธการเทรด ในสภาวะที่เหมาะสม 
(Price action ,etc.) เพียงเท่านี้ เพื่อน ๆ ก็ค้นพบสูตร สำหรับการเทรดที่มีศักยภาพสูงแล้ว


จากกราฟ เพื่อน ๆ จะเห็น Pin bar  ที่แนวรับด้านล่างของกราฟ  เป็น Price action ที่เหมาะสม
ในการเทรด  ต่อมาเพื่อน ๆ ก็คำนวณความเสี่ยง  ในกรณีนี้ Stoploss ของเพื่อน ๆ วางอยู่ด้านล่าง 
Pin bar  ดังนั้นเราก็จะคำนวณ lot ที่เราใช้ในการเทรด โดยอ้างอิงกับระยะทาง stop loss 

ผมจะสมมุติว่ามีความเสี่ยง $100 สำหรับตัวอย่างนี้ เพื่อนๆ จะเห็นจากตัวอย่างว่า ถ้าเพื่อนๆ เทรดชนะ
เพื่อนๆ มีโอกาสได้ผลตอบแทนเป็น 3 เท่าของความเสี่ยงที่เราใช้ ซึ่งเท่ากับ $300 เมื่อเพื่อนๆ ใช้ 
R:R Ratio = 3:1

สมมุติว่าเพื่อนๆ ทำการเทรดต่อเนื่อง 25 ครั้ง  ลองคำนวณเล่นๆ ดูว่า เพื่อน ๆ จะแพ้ได้กี่ครั้ง 
โดยเงื่อนไขก็คือต้องมีกำไรเหลืออยู่..  คำตอบก็คือแพ้ได้มากสุดถึง 18 ครั้ง 
ลองคำนวณตัวเลขตามน่ะครับ
แพ้ทั้งหมด 18 ครั้ง   เสี่ยงครั้งละ $100 = -$1,800  ชนะเพียง 7 ครั้ง = +$2,100
ผลรวมการเทรดตลอด 25 ครั้ง = $2100 - $1800 = $300
สิ่งที่ผมต้องการบอกก็คือ  เพื่อน ๆ อาจจะแพ้ติดกัน 18 ครั้ง  และจึงพบกับการชนะต่อเนื่องอีก 
7 ครั่้งติดกัน เพราะเราไม่สามารถรู้อนาคตได้

ดังนั้นเมื่อเพื่อน ๆ ทราบถึง พลังของ R:R Ratio แล้ว สิ่งที่เราต้องทำก็คือ "อดทน รอคอย"
ทรดให้ยาวนาน เพียงพอ จำนวนครั้งมากพอ โดยใช้ระบบเทรด ที่มีประสิทธิภาพ  แน่นอนว่า...
เราคงไม่พ่ายแพ้  ติดกัน ต่อเนื่องถึง 18 ครั้ง  แต่น่าเสียดายที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ ใช้อารมณ์มากเกินไป 
และ ไม่มีวินัย ในการใช้หลักการ R:R Ratio ได้อย่างถูกต้อง 

หรือพวกเขาไม่รู้เลยว่า ที่ถูกควรทำอย่างไร การแทรกแซงในการเทรดของเรา โดยการย้าย SL
จากจุดเข้าเทรดตอนแรก  หรือ ไม่ใช้หลักการ R:R ที่ 2 หรือ 3 เท่า คือข้อผิดพลาดใหญ่

สำหรับเทรดเดอร์โดยทั่วไป พวกเขายังมีแนวโน้มที่จะใช้  R:R ratio ที่ 1:1 หรือน้อยกว่านี้ 
หมายความว่า  เราต้องชนะในการเทรดให้มากขึ้น  เพื่อให้ได้กำไรในระยะยาว 

*** โปรดจำไว้ว่าการซื้อขาย เป็นวิ่งมาราธอน ไม่ใช่วิ่งระยะสั้น  และวิธีที่เราจะชนะการวิ่งมาราธอน คือ...
การยึดหลักการที่สอดคล้องกันของ R:R Ratio ร่วมกับ การเรียนรู้กลยุทธ์การซื้อขาย  ที่มีประสิทธิภาพ
อย่างแท้จริง


Position Sizing ขนาดในการเทรด

Position Sizing หมายถึง  ขนาด lot ที่ต้องใช้ในการเข้าเทรดแต่ละครั้ง โดยต้องสอดคล้องกับ Risk
ความเสี่ยงของจำนวนเงินที่กำหนดไว้  และขนาดของ Stoploss  นี่คือวิธีที่เราใช้คำนวณขนาด lot 
ในการเข้าเทรดแต่ละครั้ง

1) เราต้องกำหนดจำนวนเงิน หรือความเสี่ยงที่จะใช้ ในการเข้าเทรดแต่ละครั้ง
(เป็นจำนวนเงินที่เราสามารถเสียได้ โดยรู้สึกสบาย ๆ ไม่กังวล ไม่เครียด) เพราะเราไม่สามารถรู้
ล่วงหน้าการเทรดว่า  เราจะชนะหรือแพ้

2) เราต้องหาขนาดของ Stoploss (Points,pips) โดยต้องหาตำแหน่ง Stoploss  ที่เหมาะสม
ตามกลยุทธการเทรดของเรา เช่น Hi/Lo ของแท่ง Pin bar แต่ไม่ควรตั้ง Stoploss ใกล้กับ
จุดเข้าเทรดมากเกินไป ต้องเผื่อให้ราคาขยับขึ้นลงได้ด้วย

3) เราต้องคำนวณโดยใช้สูตร (Major pair)
Lot size = Risk ($) / SL size (Points)
เช่น Lot size = 50$ / 50points = 1 lot

*** สิ่งสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง Position sizing ก็คือ  เราต้องเข้าใจก่อนว่า เราต้องเสี่ยงเป็นตัวเงิน
ในการเข้าเทรดเท่ากันทุกครั้้ง  เช่น $50 ก็ต้อง $50 ทุกครั้ง  แม้ว่าขนาดของ SL จะกว้างขึ้น 
ก็ไม่ได้หมายความว่า เราต้องเพิ่มตัวเงินในการเสี่ยงตามไปด้วย

เทรดเดอร์มือใหม่หลายคน สับสนในเรื่องนี้ว่า  ควรกำหนดค่าตายตัวให้กับ ตัวเงิน / ขนาด SL

ลองมาดูที่กราฟรายวันของ EURUSD  เราสามารถเห็นขนาดของ SL ในการเทรดที่แตกต่างกัน 
คือ 95 & 179 pips  แต่สิ่งที่เหมือนกันทั้ง 2 การเทรดก็คือ ความเสี่ยงที่เป็นตัวเงิน = $100 ทั้งสองครั้ง


A แบบจำลองความเสี่ยงเงิน($)คงที่ 

เทรดเดอร์จะตัดสินใจก่อนการเทรดว่า  ต้องการใช้ความเสี่ยงเป็นตัวเงินเท่าใด และจะยึดตัวเงินเดิม
ในการเสี่ยงทุกๆ ครั้ง จนกว่าจะตัดสินใจเปลี่ยนตัวเงิน  ในความเสี่ยงในโอกาสต่อไป (เดือนใหม่ ปีใหม่)

B แบบจำลองความเสี่ยงร้อยละ(%)คงที่

เทรดเดอร์จะตัดสินใจก่อนการเทรดว่า  ต้องการใช้ความเสี่ยงเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าใด (มักจะ 2 หรือ 3%)
และจะยึดเปอร์เซ็นต์เดิมในการเสี่ยงทุก ๆ ครั้ง จนกว่าจะตัดสินใจเปลี่ยนเปอร์เซ็นต์ ความเสี่ยง
ในโอกาสต่อไป (เดือนใหม่ ปีใหม่)

Nial Fuller แนะนำ ให้ใช้ความเสี่ยงแบบเงินคงที่ เนื่องจากความเสี่ยงแบบร้อยละคงที่  เทรดเดอร์มี
โอกาส ที่จะเทรดแบบ Over trade  เนื่องจากร้อยละคงที่ (แต่ตัวเงินเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ)  มีผลต่ออารมณ์
ของเทรดเดอร์ ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

=============================
**ข้อสรุป**
เทรดเดอร์ที่จะประสบความสำเร็จ ในการเทรดตลาด Forex ต้องเข้าใจในเรื่องต่อไปนี้ 
เช่น Risk:Reward, Position sizing, $Risk รวมถึงกลยุทธในการเทรดที่มีประสิทฺธิภาพด้วย

Source: Nial Fullers

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น